ซื้อขายบ้านอย่างไรให้ถูกจับจองอย่างรวดเร็ว

การขายบ้านอย่างรวดเร็ว เเละได้ราคาดี ถ้าหากจะถามว่าผู้คนต้องการอะไรจากการซื้อสินทรัพย์อสังหาริมทรัพย์ โดยทั่วไปนั้น คำตอบก็มักจะลงเอยในเรื่องที่เราคุ้นเคยกันอยู่โดยตลอด ตั้งแต่ทำเลดีมีศักยภาพ ไม่ห่างไกลความเจริญและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ราคาจับต้องได้ น่าสนใจในแง่การลงทุน จนถึงโครงสร้างและการออกแบบที่ดึงดูดสวยงามน่าสนใจ


ถ้าคุณสมบัติพื้นฐานคือสิ่งที่เป็นเพียงเครื่องป้องกันไม่ให้อสังหาฯ ของคุณถูกเขี่ยทิ้งในการช็อปปิ้งจากผู้ซื้อแล้วนั้น คุณอาจจะต้องใช้แรงผลักเพิ่มเติมอีกสักเล็กน้อย คิดให้ไกลจากการนำเสนอขายแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ให้ลองจินตนาการตัวเองในฐานะผู้ซื้อเช่นกัน ดังนั้นถ้าคิดจะขายบ้านเดี่ยว ขายทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม ขายคอนโด หรือขายที่ดิน จำเป็นอย่างมากที่จะต้องรู้เทคนิคเหล่านี้ ที่จะช่วยให้อสังหาริมทรัพย์ที่ถือครองอยู่ในมือนั้นขายออกง่ายขึ้น 


เทคนิคที่ควรรู้ก่อนขายบ้าน


1. ตั้งราคาให้เหมาะสม


ราคาถือเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้อสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม คอนโด หรือที่ดิน ขายออกได้อย่างรวดเร็ว การตั้งราคาขายต้องดูหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นราคาประเมินจากกรมธนารักษ์ ราคาประเมินจากองค์กรอิสระหรือสถาบันทางการเงิน ดังนั้นการตั้งราคาขายจึงค่อนข้างสำคัญ และถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นข้อแรก รวมถึงราคาตลาดหรือราคาซื้อขายจริงบนทำเลนั้น ๆ


โดยปกติทุกคนจะดูราคาก่อนตัดสินใจซื้อ ถ้าราคาแพงเกินไป โอกาสที่จะหนีออกห่างก็มีเยอะ ถ้าของสิ่งนั้นไม่มีความอยากได้ หรือความจำเป็นจริงๆ ดังนั้น การตั้งราคาอสังหาริมทรัพย์ให้เหมาะสม ต้องตั้งเผื่อต่อรองไว้แต่อย่าสูงจนเกินจริงที่สำคัญไม่ควรเปลี่ยนแปลงราคาบ่อยๆ เพราะหากทำการโพสต์ลงเว็บไซต์ต่างๆ บางเว็บไซต์เข้าแก้ไขข้อความไม่ได้ จะทำให้เกิดการแสดงผลของราคาไม่เหมือนกัน อาจทำให้ลูกค้าสับสนได้ และโอกาสที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์ หลังนั้นก็กลายเป็นศูนย์


2.ทำสินค้าให้น่าสนใจ


เพราะสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกบ้านหลังที่เรานำเสนอขาย ถ้าทุกหลังเหมือนกันหมด ก็เป็นธรรมดาที่ลูกค้าจะเลือกหลังที่ขายด้วยราคาที่เขารู้สึกว่าคุ้มค่ามากกว่า ไม่อย่างนั้นก็ต้องมีทำเลที่ดีกว่า เทคนิคขายบ้านในราคาที่ต้องการได้ง่าย ๆ จึงเป็นการสร้างความน่าสนใจ 


ถือเป็นโอกาสของผู้ที่ต้องการขาย แต่จะขายได้หรือไม่ ส่วนหนึ่งต้องสร้างความน่าสนใจให้สินค้า เพิ่มมูลค่าด้วยการปรับปรุงสินค้าให้สวยงามเหมือนใหม่ สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อได้มากกว่าข้อความประกาศขายเพียงอย่างเดียวแน่นอนให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนบ้าน หรือคอนโดให้เหมาะกับการ Work From Home มากขึ้น โดยอาจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความยืดหยุ่น และมีประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังต้องใช้รูปภาพสวย ๆ ดึงดูดความสนใจ และให้ข้อมูลรายละเอียดที่ครบถ้วนชัดเจนเพื่อสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจมากที่สุด 

เพื่อนำมาซึ่งการตัดสินใจเข้ามาดูบ้านด้วยตัวเอง ที่สำคัญช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อบ้านหลังนั้นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย


3. ลงประกาศขายที่อยู่อาศัย


ในปัจจุบันมีช่องทางสำหรับผู้ที่อยากขายอสังหาริมทรัพย์มากมาย มีทั้งแบบที่ต้องใช้เงินและแบบที่ไม่ต้องใช้เงินกรณีที่เจ้าของขายเองก็สามารถถ่ายรูปบ้านในมุมต่าง ๆ ที่ต้องการนำเสนอ พร้อมกับเตรียมข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ขนาดพื้นที่รอบตัวบ้าน ทำเลที่ตั้ง เเละระบบสาธารณูปโภคในบริเวณใกล้เคียงแล้วก็นำไปลงประกาศตามแหล่งต่าง ๆ ได้เลย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เล่น Facebook Twitter หรือ Instagram สามารถนำสื่อเหล่านี้มาช่วยประกาศขายบ้านได้ ถือว่าเป็นวิธีการเข้าถึงลูกค้าหลากหลายช่องทาง และโอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามาสนใจก็มีเยอะ และโอกาสที่จะมีลูกค้าเข้าซื้ออสังหาฯ หลังนั้นก็มีสูงเช่นกัน


วิธีการเลือกเว็บไซต์เพื่อลงประกาศขายอสังหาฯ ที่เหมาะสมคือ ตรงกลุ่มเป้าหมาย ไม่ปะปนกับเว็บทั่วไป เพราะง่ายสำหรับการพบเจอของลูกค้า เช่น เลือกลงประกาศขายบ้านและที่ดินในเว็บไซต์ สำหรับ ซื้อ - ขาย อสังหาฯ โดยตรง และหลีกเลี่ยงเว็บไซต์ที่ขายรวมกับสินค้าประเภทอื่นๆ ด้วย โดยปกติพื้นที่เว็บไซต์มีจำกัด ดังนั้น เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ อสังหาฯ ที่เราลงประกาศขาย จะถูกดันให้ตกไปอยู่ล่างๆ หรือหน้าหลังๆ ได้ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น โอกาสที่คนจะเจอประกาศของคุณก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ดังนั้น เราควรมีการอัพเดทประกาศทุกวัน เพื่อให้ประกาศครองอันดับต้นๆ ของเว็บไซต์ ทั้งนี้บางเว็บไซต์ก็จะมีเงื่อนไข และวิธีการแตกต่างกันออกไปที่คุณควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนด้วย


4. ตรวจเช็กค่าใช้จ่ายที่ผู้ขายต้องรับผิดชอบ


ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ จะมีค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อและผู้ขายต้องตกลงกันว่าใครจะจ่ายส่วนใด ซึ่งหากมีการตกลงให้เรียบร้อยก่อนขาย ก็จะช่วยให้การขายราบรื่น และเรียบร้อยมากขึ้น ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มีดังนี้


  • ค่าอากรแสตมป์ โดยทั่วไปเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ขาย คิดเป็น 0.5% ของราคาซื้อขาย แต่ต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินที่ดิน หากต่ำกว่า ให้ใช้ราคาประเมินที่ดินมาคำนวณ แต่ในกรณีที่ผู้ขายเข้าข่ายต้องจ่ายภาษีธุรกิจเฉพาะ ก็ไม่ต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์


  • ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยทั่วไปเป็นค่าใช้จ่ายของผู้ขาย คิดเป็น 3.3% ของราคาซื้อขาย ทั้งนี้ผู้ขายต้องครอบครองบ้านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี แต่หากครอบครองมากกว่า 5 ปีขึ้นไป หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี ก็จะไม่ต้องจ่ายค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ แต่ผู้ขายต้องจ่ายค่าอากรแสตมป์แทน


  • ค่าธรรมเนียมการโอนบ้าน คิดเป็น 2% ของราคาประเมินที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้าง โดยทั่วไปจะแบ่งจ่ายกันคนละ 1% ระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย หรือในกรณีที่ผู้ขายเป็นบุคคลธรรมดา ไม่ได้ลดราคาบ้านให้ แต่ผู้ขายมีข้อเสนอเป็นผู้จ่ายค่าธรรมเนียมโอนบ้านทั้งหมด หรือกรณีอื่น ๆ ตามข้อตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย


  • ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีที่ผู้ขายเป็นบุคคลธรรมดา ผู้ขายต้องชำระค่าภาษีนี้เพราะเป็นผู้มีรายได้จากธุรกรรมซื้อขาย การคิดค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นแบบอัตราก้าวหน้าหรือแบบขั้นบันได และจำนวนเงินที่เสียภาษีก็ขึ้นอยู่กับวิธีการที่ได้มากับจำนวนปีที่ถือครอง


5. สัญญาต้องไม่พลาด ป้องกันการเสียเปรียบ


ข้อตกลงและเงื่อนไขอื่น ๆ ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าตนเองจะได้รับความเป็นธรรมในสัญญาทุก ๆ ข้อ เช่น การยกเลิกสัญญา การคืนเงินมัดจำ และการรับประกันบ้าน ส่วนสัญญาซื้อขายจะระบุเงื่อนเพิ่มเติมในส่วนท้ายของสัญญา โปรดอ่านให้ครบถ้วนก่อนเซ็นสัญญาร่วมกัน การรับผิดชอบค่าใช้จ่าย การซื้อขายบ้านจะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และภาษีอากร ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหา หากผู้ซื้อและผู้ขายไม่ตกลงกันให้ดีว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนไหน 


ดังนั้นจะต้องระบุในสัญญาจะซื้อจะขายให้ชัดเจน

สัญญาซื้อขายเป็นเอกสารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการซื้อขายบ้าน จึงต้องพิจารณาทุกรายละเอียดอย่างรอบคอบ ซึ่งสัญญาที่ดีก็ทำให้ผู้ซื้อ รวมถึงผู้ขายอุ่นใจด้วย


6. นายหน้า ตัวช่วยสำคัญ


การทำการตลาด หาลูกค้า ติดต่อ เเละดำเนินการต่างๆ รวมถึงพาลูกค้าไปดูบ้านเเละปิดการขาย ข้อมูลเหล่านี้ หากไม่มีความรู้และประสบการณ์ในการขาย รวมถึงเรื่องกฎหมาย การเงิน ขั้นตอนทางราชการ การขายอสังหาริมทรัพย์อาจเป็นเรื่องยากและซับซ้อน แนะนำให้ใช้บริการนายหน้า ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะมาช่วยขายเริ่มตั้งแต่ให้คำแนะนำในการเตรียมบ้านก่อนประกาศขาย เช่น การตกแต่งและการตั้งราคาขายนายหน้าสามารถตรวจสอบจุดบกพร่อง ประเมินบ้าน และให้คำปรึกษาเพื่อปรับปรุงและช่วยให้บ้านขายได้ง่ายในราคาดีเเละจัดเตรียมสัญญาซื้อขายบ้าน แจ้งให้เจ้าของบ้านเตรียมเอกสารต่าง ๆ และช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์


I Property Service (IPS)  ตัวช่วยในการตรวจสอบและขายที่ดินอสังหาริมทรัพย์มือสองของคุณ 


แม้ว่าการซื้ออสังหาฯ เพื่อลงทุนในช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ดีที่สุด แต่ผู้ซื้อเพื่อลงทุน โดยเฉพาะผู้ลงทุนมือใหม่นั้นจำเป็นต้องศึกษารูปแบบการลงทุนด้วย เพราะต้องทำความเข้าใจว่าการลงทุนทุกอย่างนั้นมีความเสี่ยง ดังนั้นในการลงทุนนั้นจึงควรเลือกรูปแบบให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคดีๆที่ทำให้คุณหรือเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ช่วยให้ขายบ้านออกง่าย แม้ในช่วงนี้ที่ดูเหมือนว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ก็ยังพบสัญญาณที่ดี มีผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น เป็นโอกาสที่ผู้ขายจะใช้เทคนิคเหล่านี้พิชิตใจผู้ซื้อ


I Property Service (IPS) ได้พัฒนาแนวคิดโครงการการออกแบบ พร้อมทั้งควบคุมงานก่อสร้างด้วยระบบเทคโนโลยีนำสมัยโดยวิศวกร มีทีมงานก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญในระดับสากลรวมถึงการให้ความสำคัญกับคุณภาพงานบริการทั้งก่อนการขาย และ บริการหลังการขาย นอกจากนั้นยังมีบริการรับขายที่ดินมือสอง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงทั้งในด้านอรรถประโยชน์ของการใช้ชีวิต เพื่อให้เกิดสังคมคุณภาพอย่างยั่งยืน

บทความอื่น ๆ