เงินเฟ้อส่งผลต่อการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์อย่างไร

เมื่อได้ยินคำว่า ‘เงินเฟ้อ’ หลายคนเองก็รู้สึกขยาดแล้ว เพราะเมื่อเกิดเงินเฟ้อทีไร ใช้จ่ายแต่ละครั้ง รู้สึกราวกับจะล้มละลายเสียอย่างไรอย่างนั้น เป็นยุคที่เรียกได้ว่าข้าวยากหมากแพงจริง ๆ และหากภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นไปอีกเรื่อยก็จะยิ่งส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันมากขึ้นด้วย จนทำให้รู้สึกว่าการใช้จ่ายมีการติดขัดได้เลย


แต่ไม่ว่าจะเป็นภาวะเงินเฟ้อ หรือเงินฝืด ย่อมมีทั้งผู้ที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่สถานการณ์ในช่วงนั้น ๆ ด้วย และสำหรับวงการผู้ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เองจะมีชะตาเป็นอย่างไรในภาวะที่มีเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นเช่นนี้ วันนี้สรีธรมีคำตอบมาฝากกัน


เงินเฟ้อ คืออะไร


 สภาวะเงินเฟ้อ คือ สภาวะที่เงินในมือของเรานั้นมีค่าลดลง หมายถึงว่าเรามีเงินปริมาณเท่าเดิมแต่ข้าวของอื่น ๆ นั้นมีราคาสูงขึ้น ซึ่งเมื่อเรานำเงินจำนวนเท่าเดิมไปซื้อของในช่วงที่เกิดภาวะเงินเฟ้อจะทำให้เราได้ปริมาณของลดลงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ โดยมีสาเหตุมาจากความต้องการซื้อสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นหรือต้นทุนในการผลิตสินค้านั้นพุ่งสูงขึ้น ทำให้มูลค่าเงินที่เราถืออยู่นั้นมีค่าลดลงนั่นเอง โดยการคิด ‘อัตราเงินเฟ้อ’ สามารถคิดได้จากการเปรียบเทียบราคาของสินค้าหรือบริการในตอนนี้กับราคาเมื่อ 1 ปีก่อนหน้า และนำมาหาค่าเฉลี่ยของสินค้าและบริการต่าง ๆ จะได้ออกมาเป็นอัตราเงินเฟ้อ ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เราเคยซื้อกาแฟแก้วละ 100 บาทเมื่อปีที่แล้ว แต่ปีนี้ต้องจ่าย 105 บาทเพื่อซื้อกาแฟแก้วเดิม ได้ปริมาณเท่าเดิม นั่นหมายความว่าอัตราเงินเฟ้อในกรณีนี้เท่ากับ 3%


เงินเฟ้อ กับ วงการอสังหาริมทรัพย์


หลายคนอาจมองว่าเงินเฟ้อ คือ ตัวร้ายส่งผลเสียกับทุกคนแต่บอกเลยว่าไม่ใช่กับผู้ที่ลงทุนอยู่ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เพราะพูดได้เลยว่าวงการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้นได้รับประโยชน์เต็ม ๆ จากสถานการณ์เงินเฟ้อนี้


  • เงินเฟ้อสูงขึ้น มูลค่าอสังหาฯ ก็เพิ่มขึ้นตาม

สำหรับผู้ที่ลงทุนในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เป็นประจำ หรือซื้อเก็บทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์เป็นประจำ บอกเลยว่านี่คือโอกาสทองของคุณ ที่จะทำกำไรอย่างงอกงามในการขายต่ออสังหาริมทรัพย์มือสองเหล่านี้ เพื่อสร้างกำไรเป็นกอบกำเนื่องจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้น เพิ่มโอกาสให้การซื้อขายอสังหาฯ ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นโดยการเลือกทำเลทองที่เป็นที่ต้องการอยู่เสมอ ๆ


  • อสังหาฯ มูลค่าเพิ่มขึ้นแต่ยอดกู้เท่าเดิม

โดยเมื่อเกิดสภาวะเงินเฟ้อขึ้น มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เราถือครองอยู่จะมีมูลค่าสูงขึ้น แต่ยอดกู้ที่เรากู้มาจากธนาคารนั้นไม่ได้มีการปรับให้สูงขึ้น และมูลค่าค่าของเงินกู้เองก็จะลดลงตามกาลเวลาด้วย เช่น ซื้อ คอนโดมา 3 ล้าน อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 5% มูลค่าเงินกู้จะลดลงไปอยู่ที่ 2.85 ล้านนั่นเอง หากอยากได้กำไรเพิ่มขึ้นก็เก็บไว้ก่อนอย่าพึ่งขาย เพื่อสร้างกำไรระยะยาว


  • รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากค่าเช่า

หากอยู่ในภาวะเงินเฟ้ออัตราค่าเช่าของอสังหาริมทรัพย์เองก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ในฐานะผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์และเป็นผู้ปล่อยเช่า จะได้รับค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อเลย เช่น ค่าเช่าปกติอยู่ที่เดือนละ 30,000 บาท แต่ในปีนี้มีอัตราเงินเฟ้อ 5% ทำให้ค่าเช่าห้องเพิ่มเป็น 31,500 บาท


ซื้อขายอสังหา ไว้ใจสรีธร


สรีธร นายหน้ารับฝากขายหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์มือสอง หากคุณอยากบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ในมือ หรือมองหาการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โปรดไว้ใจให้เราดูแล เรามีบริการเป็นที่ปรึกษา รวมถึงวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางการตลาดและการขาย พร้อมจัดหาแหล่งสินเชื่อโดยสนับสนุนทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ดูแลตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้ายในการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน


บทความอื่น ๆ